บทความเกี่ยวกับผิว
สิวเสี้ยน ตัวทำลายความมั่นใจของบนผิวหน้าของหลายคน
ก.พ.
สิวเสี้ยน หรือชื่อเต็ม ๆ ทางการแพทย์ของน้องคือ Trichostasis spinulosa ปัญหากวนใจ ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นอาการโรคผิวหนังที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ปัญหานี้สามารถส่งผลต่อความมั่นใจ และความสบายใจของหลายคนได้อย่างมาก สิวเสี้ยนจะมีลักษณะเป็นตุ่มสีเข้มเล็ก ๆ บนผิวหน้า ซึ่งเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตตัวเองหรือยังไม่รู้แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง การจัดการปัญหาสิวเสี้ยนไม่ใช่เรื่องยาก ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า น้องสิวชนิดนี้คืออะไร มีสาเหตุการเกิดจากอะไร และมีวิธีการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง
สิวเสี้ยน สิวหัวดำขนาดเล็กบนใบหน้าคืออะไรกันนะ?
สิวเสี้ยน เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อยแต่มักถูกมองข้าม โดยจะมีลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ สีเข้มและหัวสิวอยู่ในรูขุมขน จุดสิวเสี้ยนเหล่านี้เรียกว่าสปินูล มักเกิดขึ้นบนใบหน้า โดยเฉพาะที่จมูก แก้ม และหน้าผาก แต่ก็สามารถเจอได้บนลำตัวและแขนขาได้เช่นกัน ถึงจะเป็นอาการหรือปัญหาผิวที่ไม่ได้เป็นอันตราย แต่ก็อาจทำให้เกิดความกังวลเรื่องความสวยงาม สุขภาพผิว และมีอาการคันเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวได้
สิวเสี้ยน Trichostasis Spinulosa เกิดขึ้นได้อย่างไร?
จริง ๆ แล้วสาเหตุของการเกิดที่แท้จริงของสิวเสี้ยนนั้นยังไม่ชัดเจน แต่ทางการแพทย์เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่เส้นผมหรือขนอุดตันอยู่ในรูขุมขนอย่างผิดปกติ การอุดตันของขนนี้นำไปสู่การก่อตัวของเคราติน ซึ่งเคราตินก็จะอุดตันรูขุมขนในเวลาต่อมา และยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น การผลิตไขมันส่วนเกิน การผลัดเซลล์ผิวอย่างผิดปกติ และพันธุกรรม ก็อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะนี้ได้ นอกจากนี้ คนที่เคยมีประวัติเป็นสิวหรือโรคผิวหนังอื่น ๆ อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวเสี้ยนนี้ได้ด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยหลักมีอยู่ 4 ปัจจัย คือ
- สิวเสี้ยนเกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขุมขน
ส่งผลให้รูขุมขนมีขนอ่อนขึ้นมามากผิดปกติ และไม่สามารถหลุดร่วงไปตามเวลาที่ควร เมื่อขนอ่อนนั้นอุดตันรวมตัวกับไขมันที่ผลิตออกมา รวมกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นสิวเสี้ยนขึ้นมา
- สิวเสี้ยนเกิดจากการทำงานที่มากผิดปกติของฮอร์โมนเพศชายภายในผิวหนัง
ซึ่งมีผลกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น ผลิตไขมันออกมามาก รูขุมขนจึงต้องขยายกว้างขึ้น กลายเป็นแหล่งสะสมสิ่งต่าง ๆ และอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้นจนเกิดเป็น สิวเสี้ยน
- สิวเสี้ยนเกิดจากเชื้อแบคทีเรียพีแอคเน่ (P.acnes)
แบคทีเรียชนิดนี้เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดสิว ทำให้ผิวสร้างกรดไขมันอิสระมากเกินไป แล้วไปอุดตันรูขุมขน จนเกิดเป็นสิวเสี้ยน
- สิวเสี้ยนเกิดจากการรับประทานอาหารที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดสิว
การทานอาหาร เช่น อาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เป็นต้น จะทำให้เกิดการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปบริเวณผิวหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการอุดตันจนเกิด “สิวเสี้ยน”
วิธีการรักษา สิวเสี้ยน อย่างง่ายฉบับ BERKIN Serum
การรักษาสิวเสี้ยนต้องเน้นไปที่การลดเคราตินออกจากรูขุมขน เพื่อลดผลกระทบและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ซึ่งปัญหานี้จะมีวิธีดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพตามนี้
การขัดผิว: การขัดผิวเป็นประจำด้วยสครับหรือสารขัดผิวที่อ่อนโยน ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและขจัดสิ่งอุดตันของรูขุมขน ช่วยลดการก่อตัวของสิวเสี้ยนได้
ใช้เรตินอยด์รักษาเฉพาะที่: การใช้สกินแคร์ที่มีสารเรตินอยด์เฉพาะที่ เช่น เทรติโนอิน (tretinoin) หรืออะดาพาลีน (adapalene) ช่วยส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิว และป้องกันการก่อตัวของเคราตินในรูขุมขน ซึ่งสามารถหาสกินแคร์เหล่านี้ได้จากร้านขายสกินแคร์ หรือร้านขายยาทั่วไปกันได้เลย
กรดซาลิไซลิก (BHA): ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีกรดซาลิไซลิกสามารถช่วยขัดผิวและทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันได้ กรดซาลิไซลิกยังมีคุณสมบัติในเรื่องการต้านการอักเสบ ซึ่งสามารถลดอาการแดงและการระคายเคืองที่เกิดจากสิวเสี้ยนในรูขุมขนนี้ได้
การกดสิวหรือรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ในกรณีที่ปัญหาสิวเสี้ยนนี้มีความรุนแรง อาจต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการกดสิว หรือดึงเคราตินจากขนที่จะก่อตัวให้เกิดสิวเสี้ยน ขั้นตอนนี้ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดแผลเป็นบนผิวหน้าหรือการติดเชื้อได้
การดูแลรักษาด้วยเลเซอร์: การรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ สามารถใช้เพื่อลดขยสดรูขุมขนที่จะก่อให้เกิดการสะสมเคราตินได้ วิธีนี้อาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีรูขุมขนเยอะและกว้างเป็นพิเศษ โดยต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะและสภาพผิวของเพื่อน ๆ ได้นั่นเอง
7 ทริคการดูแลผิวสำหรับคนที่มีปัญหาสิวเสี้ยน
สิวเสี้ยนเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน จากสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือเชื้อ P.acnes กระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอุดตันในรูขุมขน ในเบื้องต้น เราสามารถป้องกันและลดสิวเสี้ยนได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
- ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
สำหรับการล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนแชพเหมาะกับสภาพผิว ล้างแล้วไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง เลือกใช้ส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดสิว สามารถทำความสะอาดหน้าได้อย่างดีและช่วยลดความมันส่วนเกินได้ การดูแลปัญหาสิว ทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนการล้างหน้า ทั้งนี้เราไม่ควรใช้เวลาล้างหน้านานหรือบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าแห้งจนเกิดการผลิตน้ำมันออกมามากเกินความจำเป็น และกลายเป็นต้นเหตุการอุดตันของไขมันตามรูขุมขน ที่ก่อให้เกิดสิวเสี้ยน
- เช็ดเครื่องสำอางทุกครั้งก่อนเข้านอน
การปล่อยให้เครื่องสำอางอยู่บนใบหน้าในขณะนอนหลับถือเป็นการทำร้ายผิวหน้าโดยที่หลายคนไม่คาดคิด จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิวก่อนการล้างหน้าปกติ เพื่อช่วยเช็ดทำความสำอางเครื่องสำอางและสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกินที่ตกค้างบนใบหน้าออกได้หมดจด ลดโอกาสการอุดตันในรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เหมาะสำหรับผิวคนเป็นสิวเสี้ยนโดยเฉพาะ
- ใช้เซรั่มที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำมันและช่วยควบคุมความมัน
จะเป็นการช่วยยับยั้งความมันส่วนเกินบนใบหน้า เพื่อป้องกันสิวเสี้ยน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อบางเบา เช่น เซรั่ม และควรใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยลดการอุดตันบริเวณรูขุมขนได้
- สครับหรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว
การสครับจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้าง ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก ไม่ให้เกิดการอุดตันตามรูขุมขน และเกิดสิวเสี้ยนขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร retinal หรือ BHA ก็ช่วยในการขจัดเซลล์ผิวเก่าและสิ่งสกปรกอุดตันให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำร้ายผิว ทำให้สิวเสี้ยน และสิวอุดตันน้อยลง แต่ที่ต้องระมัดระวังคือ ไม่ควรสครับหน้าบ่อยเกินไป หรือลงน้ำหนักมือถูที่ผิวหน้าแรงจนเกินไป เพราะผิวอาจได้รับบาดเจ็บ เกิดการอักเสบ ระคายเคือง ผิวหน้าอ่อนแอ และจะกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นใหม่ได้ การสครับผิวเพียง 2 ครั้งต่อเดือน เป็นจำนวนครั้งที่เหมาะสมในการช่วยดูแลผิว
- สกินแคร์กระชับรูขุมขน
ปัญหาสิวเสี้ยนอาจส่งผลทำให้เกิดรูขุมขนกว้าง ยิ่งหากเป็นคนมัน และดูแลผิวไม่ดี จะทำให้ง่ายต่อการอุดตันและเกิดปัญหาสิวตามมาได้ เพื่อช่วยกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลงและดูแลปัญหาสิวไปพร้อมกัน ควรเซรั่มที่ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ลดการอุดตัน พร้อมปรับสมดุลน้ำมันบนผิวให้ปกติ สร้างผิวให้แข็งแรง
- เติมความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อน ๆ ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบา และปราศจากน้ำมัน อย่าง BERKIN Serum ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีผิวมัน เพราะสามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน มี Niacinamide (Vitamin B3) ที่ช่วยควบคุมสมดุลความมัน ลดความเสี่ยงของการอุดตันของรูขุมขน แถมยังมี Ceramide 3 ชนิด ซึ่งจะช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรงให้กับผิวหน้าเราอีกด้วย
- ป้องกันแสงแดด
ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA+++ ขึ้นไป ทุกวัน แม้ในวันที่มีเมฆมากหรืออยู่ในอาคาร เพราะการเจอแสงแดดอาจทำให้รอยดำ และการอักเสบแย่ลง หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีน้ำมันมาก เลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่ปราศจากน้ำมันหรือไม่ก่อให้เกิดสิว เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขน และลดความเสี่ยงของการเกิด Trichostasis Spinulosa ที่รุนแรงขึ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควร “หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะ” หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะบริเวณที่เป็นสิว เพราะอาจทำให้เกิดแผลเป็น ติดเชื้อ และอักเสบได้อีก
เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ที่ BERKIN รวบรวมมา ก็จะช่วยจัดการกับปัญหาสิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิวเสี้ยน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกสภาพผิว แต่อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่าในผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม เพราะการผลิตซีบัมที่มากเกินไปสามารถนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขน ซึ่งนำไปสู่การก่อตัวของเคราตินในรูขุมขนซ และก่อให้เกิดสิวเสี้ยนในที่สุด
สิวเสี้ยนอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่หรือน่ากังวลเท่ากับปัญหาผิวอื่น ๆ แต่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อความั่นใจของเรา โดยการทำความเข้าใจถึงสาเหตุ การรักษาที่มีประสิทธิภาพ และแนวทางปฏิบัติในการดูแลผิวที่เหมาะสม เพื่อน ๆ ที่มีปัญหาผิวหน้านี้ก็สามารถมีผิวที่กระจ่างใส และมีสุขภาพผิวหน้าที่ดีขึ้นได้
ติดตามข่าวสาร บทความเกี่ยวกับปัญหาผิวหน้า Tips&Trick จาก BERKIN ได้ที่ช่องทาง
เว็บไซต์: Berkinofficial
Instagram: Berkin.official
เพจ Facebook: Berkin.official
อ้างอิง
-https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4830167/
-https://dermnetnz.org/topics/trichostasis-spinulosa
-https://emedicine.medscape.com/article/1071782-overview?form=fpf
