วิธีดูแล ผิวแห้ง ลอก ปัญหาผิวหน้าที่ไม่ได้เจอแค่ในช่วงหน้าหนาว

ผิวแห้ง

ภาวะ ผิวแห้ง (dry skin) หรือที่เรียกว่า xerosis* เป็นภาวะที่สามารถเจอได้ทั่วไป มีลักษณะเฉพาะคือผิวชั้นนอกขาดความชุ่มชื้น อาจปรากฏเป็นขุย หยาบกร้าน คัน และบางครั้งก็แตกหรือมีเลือดออก แม้ว่าความแห้งกร้านเป็นครั้งคราวจะเป็นเรื่องปกติ แต่การมีผิวแห้งอย่างต่อเนื่องอาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิวและบ่งบอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงสาเหตุของผิวแห้ง วิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และคำแนะนำในการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม

*Xerosis หรือ หน้าลอก คือสภาพผิวที่มีปัญหาแห้งกร้าน ผิวหน้าลอกเป็นขุย โดยมีสาเหตุเกิดขึ้นจากการสูญเสียน้ำออกจากผิว จึงทำให้ผิวไม่ชุ่มชื้น แห้งตึง ลอกแห้งเป็นขุย ไม่เรียบเนียน และหากขาดการดูแลจะยิ่งเพิ่มระดับความรุนแรง โดยจะมีอาการคันที่ผิวหนังหรือไวต่อการระคายเคืองร่วมด้วย*

ผิวแห้ง ปัญหาผิวกวนใจนี้เกิดขึ้นจากอะไร?

ปัญหา ผิวแห้ง เป็นภาวะที่สามารถส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย โดยภาวะนี้อาจจะทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกไม่สบายตัวและมีอาการผิวลอกตามมา แต่ก็เป็นอาการที่ไม่ค่อยร้ายแรงนัก และสามารถดูแลจัดการได้ด้วยการดูแลผิวที่เหมาะสมและการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ แต่ในบางกรณี อาการผิวแห้งอย่างต่อเนื่องอาจบ่งบอกถึงสภาวะผิวที่ขาดความชุ่มชื้นอย่างรุนแรง อาจจะต้องปรึกษาหรือเข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญ

โดย ผิวแห้ง เกิดขึ้นเมื่อการทำงานของเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวหนังถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนังชั้นนอก (TEWL) เพิ่มขึ้น สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม อายุ และนิสัยการใช้ชีวิตบางอย่าง การทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของผิวแห้งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นเพิ่มเต

ในหัวข้อนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาดู 7 ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดผิวแห้ง ซึ่งบางปัจจัยอาจจะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ 

  • 1.ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม: การสัมผัสอากาศ หรือสภาพแวดล้อมที่รุนแรงอาจส่งผลเสียต่อผิวหนัง นำไปสู่ความแห้ง การระคายเคือง และการอักเสบ อากาศที่เย็นและแห้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว สามารถดึงน้ำมันและความชื้นตามธรรมชาติออกจากผิว ส่งผลให้ผิวหนังหยาบและเป็นขุย ในทำนองเดียวกัน การได้รับแสงแดดมากเกินไปสามารถทำลายเกราะป้องกันของผิวหนัง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดน้ำและแก่ก่อนวัย 

    รวมไปถึงการอยู่ภายในอาคารก็สามารถส่งผลให้ผิวแห้งได้ โดยเฉพาะที่ที่มีความชื้นต่ำ การทำความร้อนจากส่วนกลาง เครื่องปรับอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิอื่น ๆ สามารถลดระดับความชื้นภายในอาคารได้ ส่งผลให้ผิวแห้งกร้าน

  • 2.การอาบน้ำร้อนและการแช่น้ำร้อน: การสัมผัสกับน้ำร้อนเป็นเวลานานสามารถทำลายกำแพงไขมันของผิวหนัง ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น การอาบน้ำร้อนบ่อยๆ จะช่วยขจัดน้ำมันที่ปกป้องผิวและส่งผลให้สูญเสียความชุ่มชื้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจำกัดระยะเวลาอาบน้ำและใช้น้ำอุ่นแทนน้ำร้อน เพื่อลดความเสียหายเพิ่มเติมต่อเกราะป้องกันของผิวหนัง
  • 3.ความชื้นต่ำ: สภาพแวดล้อมในร่มที่แห้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีการใช้ระบบทำความร้อน(heater) อาจทำให้ผิวหนังขาดน้ำได้
  • 4.อายุที่เพิ่มขึ้น: ปัจจัยในหัวข้อนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวจะบางลง แห้งขึ้น และยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้เกิดความเสียหายและสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับวัย เช่น วัยหมดประจำเดือนในสตรี อาจส่งผลต่อระดับความชุ่มชื้นของผิวและส่งผลให้เกิดความแห้งกร้าน
  • 5.พันธุศาสตร์: บุคคลบางคนมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่จะมีผิวแห้ง ปัจจัยทางพันธุกรรมบางอย่างอาจส่งผลต่อความสามารถของผิวหนังในการกักเก็บความชุ่มชื้นและรักษาการทำงานของเกราะป้องกันให้แข็งแรง ในทำนองเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง เช่น การผลิตซีบัมที่ลดลง และการผลัดเซลล์ผิวที่ลดลง ก็สามารถส่งผลให้ผิวแห้งและขาดน้ำได้
  • 6.โรคประจำตัวหรือความผิดปกติทางการแพทย์: ในบางกรณี ผิวแห้งอาจเป็นสัญญาณของโรคประจำตัว กลาก (โรคผิวหนังภูมิแพ้) โรคสะเก็ดเงิน และความผิดปกติของผิวหนังอักเสบอื่น ๆ อาจทำให้เกิดรอยแดง มีอาการคันและอักเสบที่ผิวหนังได้ ภาวะเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์โดยเฉพาะ เพื่อจัดการกับอาการโดยตรง

อาการทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน เบาหวาน และการขาดวิตามินบางชนิด อาจส่งผลต่อระดับความชื้นของผิวหนังและส่งผลให้ผิวแห้งได้ จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ หากคุณมีอาการผิวแห้งอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรง อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์โดยเร็ว

  • 7.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีฤทธิ์รุนแรง: การใช้สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีฤทธิ์รุนแรง มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมในปริมาณมาก สามารถดึงน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไป ส่งผลให้เกิดความแห้งกร้าน

ซึ่งปัญหา ผิวแห้ง สามารถพัฒนาและรุนแรงขึ้นได้ ชั้นนอกสุดของผิวหนังหรือที่เรียกว่า Stratum Corneum ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและป้องกันการระคายเคืองจากปัจจัยภายนอก ในผู้ที่มีผิวแห้ง กำแพงผิวนี้จะถูกทำลาย ทำให้ความชื้นหลุดออกไปได้ง่ายขึ้น ผิวจึงเสี่ยงต่อการระคายเคืองและการขาดน้ำ

เมื่อผิวขาดความชุ่มชื้นที่เพียงพอ ก็อาจดูหมองคล้ำ หยาบกร้านและเป็นขุยได้ ในกรณีที่รุนแรงมากขึ้น อาจเกิดรอยแตกขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ นอกจากนี้ ผิวแห้งอาจมาพร้อมกับอาการต่าง ๆ เช่น คัน แดง และอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมบูรณ์ของผิวอีกด้วย

วิธีรักษาและดูแลปัญหา ผิวแห้ง ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

การรักษาผิวแห้ง เกี่ยวข้องกับการเติมความชุ่มชื้นของผิว ซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว ไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังเจอปัญหาผิวแห้ง สามารถนำวิธีดูแลอย่างมีประสิทธิภาพข้างล่างนี้ไปลองทำตามดูกันได้เลย

  • ดื่มน้ำ เติมความชุ่มชื้นจากภายใน: การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ตั้งเป้าดื่มน้ำอย่างน้อยแปดแก้วต่อวัน
  • มอยเจอร์ไรเซอร์: เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อเข้มข้นพอเหมาะและมีสารสกัดที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ เช่น กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน หรือเซราไมด์ แนะนำให้ทามอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำเพื่อล็อคความชุ่มชื้น
  • ใช้เครื่องพ่นไอน้ำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น: ใช้เครื่องพ่นไอน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่แห้ง สามารถช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวได้
  • ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน: หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง ซึ่งสามารถดึงน้ำมันตามธรรมชาติของผิวได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ สำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย
  • ไม่อาบน้ำร้อนและไม่อาบน้ำนานจนเกินไป: จำกัดเวลาที่ใช้อาบน้ำไว้ที่ 10-15 นาที และใช้น้ำอุ่นหรือน้ำที่อุณหภูมิห้องแทนน้ำร้อน ช่วยลดโอกาสการเกิดผิวแห้งได้
  • ขัดผิว: การขัดผิวเป็นประจำอย่างพอดีช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และช่วยให้มอยเจอร์ไรเซอร์ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลีกเลี่ยงการขัดผิวมากเกินไปเพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
  • แต่งกายมิดชิดเพื่อปกป้องผิวมากขึ้น: ในสภาพอากาศหนาวเย็น ปกป้องผิวหนังที่สัมผัสอากาศโดยการสวมชุดกันหนาว เช่น เสื้อหนาว ถุงมือ ผ้าพันคอ และชุดป้องกันอื่นๆ
  • การป้องกันแสงแดด: ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพื่อป้องกันความเสียหายจากรังสียูวี ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งกร้านและแก่ก่อนวัยได้
  • การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์: หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการทำพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ผิวหนังขาดน้ำได้นั่นเอง

นิสัยในการดำเนินชีวิตบางอย่างอาจทำให้ผิวแห้งรุนแรงขึ้นและรบกวนการทำงานของเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวหนัง การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป เช่น สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสครับขัดผิว อาจทำให้ผิวหนังขาดน้ำมันตามธรรมชาติ และรบกวนความสมดุลของค่า pH ทำให้เกิดความแห้งและระคายเคือง

นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ไม่ดี อาจส่งผลต่อสุขภาพผิวและส่งผลให้ผิวแห้งได้ การสูบบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดหดตัวและลดการไหลเวียนของเลือดไปยังผิวหนัง ทำให้ขาดสารอาหารและออกซิเจนที่จำเป็น ในทำนองเดียวกัน แอลกอฮอล์อาจทำให้ผิวหนังขาดน้ำและลดความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น นำไปสู่ความแห้งกร้านและความหมองคล้ำ

เลือกสกินแคร์ที่เหมาะสม สิ่งสำคัญสำหรับการจัดการปัญหา ผิวแห้ง ที่หลายคนมองข้าม

การเลือกสกินแคร์ที่ใช้กับผิวหน้า หรือสกินแคร์สำหรับทาผิวกาย เป็นอีก 1 อย่างที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแห้งอยู่ หัวข้อนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาดูวิธีการเลือกสกินแคร์ที่เหมาะกับคนผิวแห้ง เพื่อบำรุงและป้องกันไม่ให้เจอกับปัญหาผิวแห้งนี้ 

มอยเจอร์ไรเซอร์: มองหามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยในเรื่อง “เติมความชุ่มชื้น” หรือ “เติมน้ำให้ผิว” โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม เช่น กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน หรือเซราไมด์ เพื่อเพิ่มความนุ่ม ชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเรา

 บำรุงผิวผิวแห้งกร้านและขาดน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น

เติมความชุ่มชื้นที่หายไป ด้วยการใช้ BERKIN Moisture and Barrier Booster Serum ที่ช่วยมอบความชุ่มชื้นจากสารสกัดอย่าง กรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีน เซราไมด์ ที่เป็นตัวช่วยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก และปัจจัยอื่นที่จะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทาเซรั่มหลังการล้างหน้าภายใน 3 นาที และทาบำรุงผิวหน้าเป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น 

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า: เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนและไม่มีฟองซึ่งจะไม่ดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีซัลเฟต แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอม เนื่องจากอาจทำให้แห้งและระคายเคืองได้

ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง: หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ทาทิ้งไว้ (leave on product) ที่มีส่วนผสมที่รุนแรง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม เมนทอล เนื่องจากอาจทำให้ผิวแห้งและแพ้ง่ายระคายเคืองได้

เลือกสกินแคร์ สูตรปราศจากน้ำหอม: น้ำหอมอาจทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือแพ้ง่าย เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ทุกครั้งที่เป็นไปได้

ผลิตภัณฑ์ไฮโปอัลเลอร์เจนิก: หากคุณมีผิวแพ้ง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ไฮโปอัลเลอร์เจนิกที่ทำขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอาการแพ้บนผิว

ทดสอบสกินแคร์ก่อนใช้จริง: ก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใหม่ ให้ทำการทดสอบแพทช์ในพื้นที่เล็ก ๆ ของผิวหนัง เช่น บริเวณท้องแชนหรือคอ เพื่อตรวจสอบอาการไม่พึงประสงค์หรืออาการแพ้

ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่จำหน่ายตามช็อปสกินแคร์ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำและเลือกการรักษาเฉพาะบุคคล ก็จะสามารถแก้ปัญหาผิวแห้งของเพื่อน ๆ ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

ผิวแห้งเป็นภาวะผิวหนังที่พบบ่อย โดยมีลักษณะขาดความชุ่มชื้นในชั้นนอกสุดของผิวหนัง แม้ว่าความแห้งกร้านเป็นครั้งคราวจะเป็นเรื่องปกติ แต่การมีผิวแห้งอย่างต่อเนื่องและรุนแรง อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ การทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของผิวแห้ง เช่น ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม อายุ และนิสัยการใช้ชีวิต ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจัดการและป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

การใช้เทคนิคการดูแลผิวที่เหมาะสม เช่น การทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน การให้ความชุ่มชื้น และการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ การปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและไลฟ์สไตล์ ช่วยให้แต่ละคนสามารถรักษาสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น และลดความเสี่ยงของการระคายเคืองจากความแห้งได้ นอกจากนี้ การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมด้วยแนวทางที่ถูกต้อง ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ หากเพื่อน ๆ มีอาการผิวแห้งอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรง 

เพียงเท่านี้ เพื่อน ๆ ก็สามารถรักษาความเรียบเนียน มีเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง และมีผิวที่ชุ่มชื้นได้ เพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบบทความเกี่ยวกับปัญหาผิว ทริคในการดูแลผิวต่าง ๆ ของ BERKIN หรือสนใจสั่งเซรั่ม สามารถติดตามเราได้ที่ช่องทาง

เว็บไซต์: Berkinofficial

Instagram: Berkin.official

เพจ Facebook: Berkin.official

อ้างอิง

-https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-basics/dry/dermatologists-tips-relieve-dry-skin

-https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dry-skin/diagnosis-treatment/drc-20353891

-https://share.upmc.com/2018/04/dry-flaky-skin-on-face/0

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *